ประหยัดขึ้น 7.5% สูงสุด 14.3 กม./ลิตร ในรุ่นท๊อป 1GD-FTV ขุนพลดีเซลเทพ 2.8 จาก TRAVO ใหม่




TOYOTA HILUX TRAVO ยกระดับความนุ่มนวลและการควบคุม ด้วยเทคโนโลยี “Dynamic Cloud”
โตโยต้าให้ความสำคัญกับ “สมรรถนะการบังคับควบคุม” และ “ความนุ่มนวลในการขับขี่” ของรถกระบะรุ่นใหม่ HILUX TRAVO เป็นพิเศษ โดยได้แนะนำเทคโนโลยีใหม่ภายใต้ชื่อ “Dynamic Cloud” ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ที่มั่นใจและสบายในทุกสภาพถนน
เทคโนโลยี Dynamic Cloud คือแนวคิดการปรับจูนแบบองค์รวม (Holistic Tuning) ครอบคลุมระบบกันสะเทือน พวงมาลัย และการกระจายน้ำหนักตัวรถ เพื่อให้การตอบสนองของช่วงล่างนุ่มนวลแต่แม่นยำ ขับง่ายและควบคุมได้ดีในทุกย่านความเร็ว ทั้งบนถนนเรียบและเส้นทางออฟโรด
ขุมพลังใหม่ GD Super Power 2.8 ลิตร
ทุกรุ่นของ HILUX TRAVO มาพร้อมขุมพลังดีเซล GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงตอบสนองทันใจ พร้อมการปรับปรุงสมรรถนะให้ ประหยัดน้ำมันดีกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรสูงสุดถึง 5.8% และ มากกว่าเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร รุ่นก่อนหน้า 7.5%
- จากการตรวจสอบรุ่นท๊อป 2.8 4WD ROCCO มีอัตราประหยัด 13.7 กม./ลิตร สำหรับ TRAVO รุ่นใหม่ มีอัตราประหยัด 14.3 กม./ลิตร
การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่นี้ยังเน้นลดแรงเสียดทานภายใน เพิ่มประสิทธิภาพระบบจ่ายน้ำมัน และปรับเทียบอัตราทดเกียร์ให้สอดคล้องกับแรงบิดสูงสุดที่รอบต่ำ ส่งผลให้ทั้งแรงและประหยัดขึ้นในเวลาเดียวกัน
1GD-FTV (GD Super Power) ประวัติ จุดเปลี่ยน และรุ่นที่ใช้งานปัจจุบัน
จากยุค 1KD สู่ “GD Efficient Boost”
ถ้าย้อนกลับไปก่อนปี 2015 ชื่อที่ครองตลาดดีเซลของ Toyota คือ 1KD-FTV ขนาด 3.0 ลิตรที่ขึ้นชื่อเรื่อง “แรง ทน” บน Hilux Vigo และ Fortuner แต่โลกยานยนต์เดินหน้าไปไกล—มาตรฐานไอเสียเข้มขึ้น เสียง/สั่นสะเทือน (NVH) ต้องลดลง และผู้ใช้ต้องการแรงบิดรอบต่ำที่มาไวกว่าเดิม นั่นคือที่มาของโครงการ GD Efficient Boost และการเปิดตัวเครื่องดีเซลเจเนอเรชันใหม่ 1GD-FTV 2.8 ลิตร พร้อมกับ Hilux Revo และ Fortuner รุ่นใหม่ในปี 2015
หัวใจของ GD คือแนวคิด “เล็กลงแต่แรงขึ้น” (downsizing + turbo) ให้สมรรถนะสูงขึ้น พร้อมปล่อยมลพิษต่ำลง และประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับตระกูล KD
ไทม์ไลน์สำคัญ
2015 – เปิดตัวครั้งแรก
- เปิดตัวพร้อม Hilux Revo (เจน 8) ในไทย ตามด้วย Fortuner (เจน 2)
- จุดเด่นยุคแรก: 177 PS / 450 Nm, เทอร์โบ VNT ควบคุมไฟฟ้า, คอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่, EGR + อินเตอร์คูลเลอร์
- NVH เงียบขึ้น โครงสร้างและชิ้นส่วนภายในออกแบบใหม่ ลดแรงเสียดทาน เพิ่มประสิทธิภาพความร้อน
2016–2019 – ขยายตลาดทั่วโลก
- ส่งออกจากไทยไปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ ลาตินอเมริกา รวมทั้งเอเชียหลายประเทศ
- ชื่อรุ่นย่อยของ Hilux แตกต่างไปตามภูมิภาค (เช่น SR5, Rogue, Invincible ฯลฯ) แต่แกนเครื่อง 1GD ใกล้เคียงกัน
2020 – ไมเนอร์เชนจ์ “อัปแรง”
- ปรับจูนและอัปเกรดระบบอัดอากาศ/ทางเดินไอดี/ควบคุมลม EGR/ซอฟต์แวร์ ECU
- ตัวเลขขยับเป็น 204 PS / 500 Nm (โดยเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)
- การตอบสนองรอบต่ำกระฉับกระเฉงขึ้น และความเงียบ/ความนุ่มนวลดีขึ้นอีกระดับ
- ใช้ใน Hilux Revo Rocco และ Fortuner Legender หลายตลาด
2022–ปัจจุบัน – “GD Super Power” และเวอร์ชันพิเศษ
- บางตลาดใช้ชื่อการตลาด GD Super Power เพื่อสื่อถึงการจูนกำลังระดับสูงสุดจากโรงงาน
- มีสเปกที่ถูกพูดถึงมากคือ สูงสุดราว 224 PS / 550 Nm ในรุ่นพิเศษ/ภูมิภาคเฉพาะ (เช่น GR Sport บางประเทศ)
2024–2025 – ก้าวสู่ยุคไฟฟ้าเสริม
- เปิดตัว Hilux 48V Mild-Hybrid ในยุโรป/ออสเตรเลีย: ใช้เครื่อง 1GD-FTV คู่กับระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ เพื่อช่วยลดการกินน้ำมันและปล่อยมลพิษ
- Toyota ทดลองใช้งาน Hydrogen Combustion บนแพลตฟอร์ม 1GD ในญี่ปุ่น (เชิงวิจัยและทดสอบ)
- และเปิดตัวใน TRAVO วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
เทคโนโลยีหลักที่ทำให้ 1GD โดดเด่น
- VNT (Variable Nozzle Turbo) แบบคุมไฟฟ้า: ปรับองศาใบเทอร์โบทันที ช่วยเรียกบูสต์ไวตั้งแต่รอบต่ำ ลดเทอร์โบแลค
- Common-Rail G2+: แรงดันหัวฉีดสูง ฉีดเชื้อเพลิงละเอียด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้/ลดควันดำ
- Thermal Efficiency สูง: ปรับรูปทรงหัวลูกสูบ ช่องพอร์ท และพรี-มิกซ์ของไอดีให้การเผาไหม้สะอาดขึ้น
- NVH ต่ำลง: โครงสร้างฝาสูบ/บล็อก/ฝาวาล์วและการบุซับเสียงรอบเครื่องช่วยให้เงียบและสั่นสะเทือนน้อยกว่า 1KD
- รองรับไบโอดีเซลตามตลาด: หลายภูมิภาคอนุญาตถึง B20 (ขึ้นอยู่กับสเปกประเทศ/คู่มือผู้ผลิต)
สเปกสมรรถนะ (โดยสรุปตามช่วงเวลา/ตลาด)
- รุ่นแรก (2015–2019): 177 PS @ 3,400 rpm / 450 Nm @ 1,600–2,400 rpm
- รุ่นปรับปรุง (2020–2023+): 204 PS @ 3,400 rpm / 500 Nm @ 1,600–2,800 rpm
- เวอร์ชันจูนแรง “GD Super Power” (บางตลาด/รุ่นพิเศษ): ประมาณ 224 PS / 550 Nm
ตัวเลขจริงอาจต่างเล็กน้อยตาม ECU, ระบบไอเสีย,มาตรฐานไอเสียท้องถิ่น, เกียร์ (6MT/6AT), และปีรุ่น
รุ่นรถที่ “เปิดตัวครั้งแรก” ด้วย 1GD-FTV
- Toyota Hilux Revo (เจน 8) — เปิดตัว พฤษภาคม 2015 ในไทย เป็นฐานการผลิต/ส่งออกหลัก
- Toyota Fortuner (เจน 2) — เปิดตัว กลางปี 2015 ต่อเนื่องจาก Revo ใช้บล็อกร่วมกัน
รุ่นที่ “ใช้อยู่ปัจจุบัน”
1) รถกระบะ (Pickup)
- Hilux Revo / Rocco / GR Sport (ไทยและอาเซียน) – รุ่นท็อปใช้ 2.8 1GD; เวอร์ชันพิเศษบางตลาดได้จูนแรงเพิ่ม
- Hilux (ยุโรป/ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์/อังกฤษ) – 1GD 204 PS เป็นแกนหลัก
- Hilux 48V Mild-Hybrid (ยุโรป/ออสเตรเลีย ปี 2024+) – ผสานมอเตอร์/แบตฯ 48V ช่วยสตาร์ต/เร่งและลดการสิ้นเปลือง
- มีใส่ใน PRADO 250 ในตลาดญี่ปุ่น
2) PPV/SUV เฟรมกระบะ
-
Toyota Fortuner / Legender / GR Sport (ไทย อาเซียน อินเดีย แอฟริกาใต้ ฯลฯ) – ใช้ 1GD 2.8L เป็นขุมพลังหลักของรุ่นสูง
3) รถตู้/เพื่อการพาณิชย์
-
HiAce (H300) / Granvia / Majesty / Commuter 2.8 (ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และบางประเทศ) – ใช้ 1GD ในรุ่นที่เน้นแรงบิดบรรทุก
Advertisement Advertisement
หมายเหตุ: Land Cruiser Prado J150 ในบางประเทศเคยใช้ 1GD ช่วงก่อนยุติทำตลาด/เปลี่ยนเจเนอเรชัน
สำหรับ Innova Crysta ในตลาดอินเดีย ใช้เครื่อง 1GD-FTV รหัส 2.8 ลิตร ตั้งแต่ช่วงเปิดตัวรุ่นนั้น (ประมาณปี 2016)
ทำไม 1GD ถึงเป็น “หมัดเด็ด” ของ Toyota ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
- สมดุลกำลัง-ความทน: แรงบิด 500–550 Nm ตอบโจทย์งานบรรทุก/ลากจูง พร้อมสภาพถนนจริงในหลายประเทศ
- ค่า NVH ดีขึ้นมาก: ผู้ใช้สัมผัสได้ ทั้งใน PPV ครอบครัวและกระบะ 4 ประตู
- การปรับตัวตามนโยบายสิ่งแวดล้อม: พัฒนาให้ผ่าน Euro 5/6 ในหลายตลาด และแตกแขนงสู่ 48V Mild-Hybrid
- ฐานการผลิตสำคัญในไทย: ทำให้ชิ้นส่วน/การซ่อมบำรุงเข้าถึงง่าย (ขึ้นกับตลาด) และส่งออกได้คล่องตัว
มองอนาคต 1GD จะไปทางไหนต่อ
- ไฟฟ้าเสริมมากขึ้น: แนวทาง 48V Mild-Hybrid จะกระจายสู่หลายภูมิภาค เพื่อให้ผ่านกฎมลพิษและลดการสิ้นเปลือง
- ทดลองเชื้อเพลิงทางเลือก: โครงการสันดาปไฮโดรเจนยังคงเป็นห้องทดลอง ชี้ว่าบล็อก 1GD มีศักยภาพปรับตัวได้
- ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ: ตลาดที่คุมเข้มไอเสียอาจค่อย ๆ ลดสัดส่วนดีเซลลงหลังปี 2030 แต่ในภูมิภาคที่ต้องการแรงบิดสูง/โครงสร้างพื้นฐาน EV ยังไม่พร้อม 1GD จะยังมีบทบาท
- และ จะเปิดตัวใน TRAVO ใหม่
ข้อมูลพื้นฐาน (General Specs)
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| รหัสเครื่องยนต์ | 1GD-FTV |
| ตระกูลเครื่อง | GD Series (ดีเซล) |
| ความจุ | 2,755 cc (2.8 ลิตร) |
| จำนวนสูบ | 4 สูบ แถวเรียง |
| ระบบวาล์ว | DOHC 16 วาล์ว |
| เจาะกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 92.0 มม. × 103.6 มม. |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 15.6 : 1 (บางตลาด 15.5–15.8) |
| จุดเด่น | High Thermal Efficiency / NVH ต่ำ / บูสต์ไวรอบต่ำ |
| เชื้อเพลิง | ดีเซล, รองรับ B7-B20 (ขึ้นกับตลาด) |
| มาตรฐานไอเสีย | Euro 4 – Euro 6 (ขึ้นกับประเทศ) |
ระบบอัดอากาศ / เทอร์โบ
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| เทอร์โบ | VNT (Variable Nozzle Turbo) ควบคุมไฟฟ้า (Electronic Actuator) |
| อินเตอร์คูลเลอร์ | แบบแยก (Front-mount) |
| แรงดันบูสต์ | 1.2 – 1.4 bar (ขึ้นกับ ECU & ตลาด) |
| จุดเด่น | บูสต์มาไวตั้งแต่ 1,400–1,600 rpm |
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| ระบบฉีด | Common-rail Direct Injection |
| แรงดันหัวฉีด | 250–270 MPa (ประมาณ 2,500–2,700 bar) |
| หัวฉีด | โซลินอยด์ควบคุมไฟฟ้า (9-hole design) |
| ควบคุมด้วย | ECU Denso เจเนอเรชันล่าสุด |
สมรรถนะ (Power Variants)
| รุ่นกำลัง | แรงม้า (PS) | แรงบิด (Nm) | ใช้ในรุ่น |
|---|---|---|---|
| Standard Gen 1 (2015-2019) | 177 PS @ 3,400 rpm | 450 Nm @ 1,600–2,400 rpm | Hilux, Fortuner |
| ปรับปรุง (2020-2023) | 204 PS @ 3,400 rpm | 500 Nm @ 1,600–2,800 rpm | Revo Rocco / Fortuner Legender |
| GD Super Power | 224 PS | 550 Nm | GR Sport |
| 48V Mild Hybrid Assist (2024+) | 204 PS + Mild Motor Assist | ~500+ Nm | Hilux Hybrid 48V (ยุโรป/ออสเตรเลีย) |
ตัวเลขจริงอาจต่างเล็กน้อยตาม ECU, ท่อไอเสีย, เกียร์ (6MT/6AT) และประเทศ
ระบบควบคุมไอเสีย / สิ่งแวดล้อม
| ระบบ | รายละเอียด |
|---|---|
| EGR | มี / ควบคุมไฟฟ้า |
| DPF | มีในตลาด Euro 5/6 |
| SCR + AdBlue | บางประเทศ (ยุโรป/ออสเตรเลีย ไทยก็ใช้) |
| DOC | ตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน |
| รองรับไบโอดีเซล | B7–B20 แล้วแต่ประเทศ |
จุดเด่นเทียบกับเครื่องดีเซลรุ่นก่อน (1KD-FTV 3.0L)
| รายการ | 1KD-FTV | 1GD-FTV |
|---|---|---|
| ความจุ | 3.0 L | 2.8 L (เล็กลง) |
| แรงม้าสูงสุด | 171 PS | 204-224 PS (เพิ่มขึ้น) |
| แรงบิดสูงสุด | 343–360 Nm | 450–550 Nm (เพิ่มมาก) |
| เทอร์โบ | VNT แบบสุญญากาศ | VNT ควบคุมไฟฟ้า |
| เสียง/สั่น (NVH) | มากกว่า | เงียบและนุ่มกว่า |
| ไอเสีย | Euro 3–4 | Euro 4–6 |

