“BYD ตอบชัด! เราไม่ใช่ ‘Evergrande แห่งยานยนต์’ แม้มีหนี้สินสูง 70% แต่ยังแข็งแกร่งกว่าบริษัทรถยนต์ระดับโลก”

สรุปข่าวจาก BYD ชี้แจงกรณีถูกเปรียบเทียบเป็น “Evergrande แห่งวงการรถยนต์” (เหมือน Evergrande) ดังนี้
- BYD ปฏิเสธเสียงวิจารณ์และข่าวลือว่า บริษัทมีสถานะการเงินแย่หรือเสี่ยงล้มละลาย
- เทียบกับบริษัทใหญ่ทั้งในจีนและต่างประเทศ BYD มีอัตราหนี้สินต่อสินทรัพย์และหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า หรืออยู่ในระดับปลอดภัย
- หนี้ค้างจ่ายกับซัพพลายเออร์และระยะเวลาการจ่ายเงินของ BYD ก็อยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต่างจากคู่แข่งรายอื่นในจีน
- ปี 2024 BYD มีรายได้สูง กำไรดี ลงทุนวิจัยมาก และมีเงินสดสำรองเพียงพอ
- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์จีนโดยรวมเติบโตต่อเนื่อง มีส่วนแบ่งตลาดเกิน 60% และการส่งออกอันดับหนึ่งของโลก
- BYD ได้แจ้งข้อมูลและหลักฐานกับหน่วยงานรัฐ และพร้อมดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวบิดเบือน
ลีหยุนเฟย ผู้จัดการฝ่ายแบรนด์และประชาสัมพันธ์ของกลุ่มบริษัท BYD ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีมีบทความ, คอมเมนต์ และวิดีโอจำนวนมากที่แอบเปรียบเทียบ BYD ว่าเป็น “Evergrande แห่งวงการรถยนต์” (รถยนต์คือ “Evergrande” ในวงการอสังหาฯ) โดยเขายืนยันว่าบริษัทจีนรายใหญ่ในวงการรถยนต์ส่วนใหญ่มีสถานะทางการเงินที่ดีกว่าบริษัทต่างชาติ และไม่มีบริษัทจีนรายไหนที่เหมือนกับกรณี “Evergrande” จริง ๆ
สำหรับกระแสข่าวลือหรือคำวิจารณ์ที่สร้างความตื่นตระหนก ลีหยุนเฟยกล่าวว่า BYD ได้รวบรวมหลักฐานและข้อมูลเพื่อแจ้งต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว และพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหรือสร้างความเสียหาย
จุดชี้แจงสำคัญของลีหยุนเฟย
-
เรื่องอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ของ BYD อยู่ที่ 70% ซึ่งถูกมองว่าสูงและอันตราย แต่ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น เช่น Ford 84%, General Motors 76%, Apple 80%, Boeing 102%, Geely 68%, Seres 76% ก็เห็นว่ามีหลายบริษัทที่สูงกว่า แต่กลับไม่มีใครตื่นตระหนกเหมือนกับ BYD
-
การที่เราก่อหนี้รวมกว่า 580,000 ล้านหยวน หรือ 2.64 ล้านล้านบาท ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง! แล้ว Toyota ก็มี 2.7 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 12.28 ล้านล้านบาท Volkswagen ก็มี 3.4 ล้านล้านหยวน หรือ 15.47 ล้านล้านบาท Ford ก็มี 1.7 ล้านล้านหยวน 7.73 ล้านล้านบาท Geely ก็มี 504.7 พันล้านหยวน 2.30 ล้านล้านบาท และ SAIC ก็มี 610.4 พันล้านหยวน หรือ 2.78 ล้านล้านบาท พวกเขาอยู่ในอันตรายมั้ย?
-
หนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย (“หนี้ที่มีดอกเบี้ย”) ของ BYD เพียง 28,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานของ Geely มีมูลค่า 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานของ SAIC มีมูลค่า 94,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานของ Toyota มีมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานของ Ford มีมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายงานของ Volkswagen มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกันแล้ว บริษัทรถยนต์จีนของเรามีสุขภาพดีกว่าหรือไม่?
- BYD: 28,600 ล้าน USD
= 28,600 × 32.74 = 936,164 ล้านบาท (ประมาณ 9.36 แสนล้านบาท) - Geely: 86,000 ล้าน USD
= 86,000 × 32.74 = 2,814,640 ล้านบาท (ประมาณ 2.81 ล้านล้านบาท) - SAIC: 94,500 ล้าน USD
= 94,500 × 32.74 = 3,092,530 ล้านบาท (ประมาณ 3.09 ล้านล้านบาท) - Toyota: 1,800,000 ล้าน USD (1.8 ล้านล้าน USD)
= 1,800,000 × 32.74 = 58,932,000 ล้านบาท (ประมาณ 58.93 ล้านล้านบาท) - Ford: 1,100,000 ล้าน USD (1.1 ล้านล้าน USD)
= 1,100,000 × 32.74 = 36,014,000 ล้านบาท (ประมาณ 36.01 ล้านล้านบาท) - Volkswagen: 1,000,000 ล้าน USD (1 ล้านล้าน USD)
= 1,000,000 × 32.74 = 32,740,000 ล้านบาท (ประมาณ 32.74 ล้านล้านบาท)
- BYD: 28,600 ล้าน USD
-
คุณยังบอกอีกว่าหนี้สินของเราส่วนใหญ่เป็นบัญชีเจ้าหนี้กับซัพพลายเออร์ในความเป็นจริง ยิ่งขนาดขององค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีรายได้จากการดำเนินงานสูงขึ้นเท่าใด ขนาดของการจัดซื้อและความร่วมมือจากภายนอกก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น และบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น รายได้ของเราคือ 244 พันล้านเหรียญสหรัฐ ของ SAIC อยู่ที่ 241.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และของ Geely อยู่ที่ 182.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในความเป็นจริง การที่บริษัทจะมีบัญชีเจ้าหนี้จำนวนมากหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของบัญชีเจ้าหนี้ต่อรายได้จากการดำเนินงาน ยิ่งสัดส่วนนี้ต่ำเท่าไร สัดส่วนสินค้าค้างชำระก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น เราอยู่ที่ 31%, Geely อยู่ที่ 32%, SAIC อยู่ที่ 38% และ Great Wall อยู่ที่ 39%
- BYD: 244 พันล้าน USD
= 244,000,000,000 × 32.74 = 7,984,560,000,000 บาท (ประมาณ 7.98 ล้านล้านบาท) - SAIC: 241.1 พันล้าน USD
= 241,100,000,000 × 32.74 = 7,891,414,000,000 บาท (ประมาณ 7.89 ล้านล้านบาท) - Geely: 182.4 พันล้าน USD
= 182,400,000,000 × 32.74 = 5,969,376,000,000 บาท (ประมาณ 5.97 ล้านล้านบาท)
- BYD: 244 พันล้าน USD
-
เรื่องระยะเวลาการชำระเงินให้ซัพพลายเออร์ BYD ใช้เวลาเฉลี่ย 127 วัน เทียบกับ Geely 127 วัน, Great Wall 163 วัน, SAIC 164 วัน ถือว่า BYD มีความเร็วในการจ่ายเงินที่ดีและใกล้เคียงกับคู่แข่งจีนรายอื่น
ข้อมูลสำคัญจากรายงานการเงินปี 2024 ของ BYD
- รายได้รวม 777.1 พันล้านหยวน = 3.52 ล้านล้านบาท
- กำไรสุทธิ 40.3 พันล้านหยวน = 183,000 ล้านบาท
- เงินลงทุนวิจัยและพัฒนา 54.2 พันล้านหยวน = 246,000 ล้านบาท
- ภาษีที่ชำระในประเทศ 51.0 พันล้านหยวน = 231,540 ล้านบาท
- เงินสดสำรอง 154.9 พันล้านหยวน = 703,050 ล้านบาท
BYD ระบุว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางบริษัทกลับหยุดนิ่งหรือพัฒนาช้าในธุรกิจรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV)
โดยรวมแล้ว สถานะสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทรถยนต์ชั้นนำในจีนดีกว่าบริษัทต่างชาติ และไม่มีบริษัทใดในจีนที่เหมือนกับ “Evergrande” ในวงการรถยนต์ การกล่าวถึงหรือวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบต่อวงการรถยนต์ไฟฟ้าจีนถือว่าไม่เหมาะสม
ตลาดรถยนต์จีนยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งตลาดรถยนต์จีนเกิน 60% อัตราการเจาะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่เกิน 52% และการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องปกติ มีการส่งออกรถยนต์จีนเป็นอันดับหนึ่งของโลก 2 ปีติดต่อกัน พร้อมกับแบรนด์ดังอย่าง Chery, SAIC และ BYD ที่ทำตลาดในต่างประเทศได้ดี
สำหรับกระแสข่าวลือหรือคำพูดที่ก่อความตื่นตระหนก BYD เชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง บริษัทได้ส่งหลักฐานและรายงานไปยังหน่วยงานรัฐ และจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยข่าวหรือข้อมูลที่บิดเบือนต่อไป