เปิดตัวไทย 10 พ.ย.นี้ NEW TOYOTA Hilux TRAVO พร้อมการออกแบบใหม่ ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร








ภาพรวมการออกแบบ
แดชบอร์ดมีเส้นสายที่ “เหลี่ยมคม–ซ้อนชั้น” คล้ายดีไซน์ของ Toyota ยุคใหม่ เช่น Land Cruiser 250 / Tacoma เจเนอเรชันล่าสุด โดยใช้แนวคิด “Horizontal Layer” คือแบ่งเส้นสายออกเป็นแนวนอนชัดเจน เพื่อเพิ่มมิติและความรู้สึกแข็งแรงแบบรถออฟโรด
โทนสี แดงไวน์–ดำด้าน ให้ภาพลักษณ์หรูหรา สปอร์ต และดูพรีเมียมมากกว่ารถกระบะทั่วไป บ่งบอกถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความเท่และมีรสนิยม ไม่ใช่แค่ใช้งานบรรทุก
การจัดวางและฟังก์ชัน
-
จอกลางระบบสัมผัสแนวตั้ง (Floating Screen)
-
เด่นกลางแผง มีขนาดใหญ่ (คาดว่า 9–12 นิ้ว)
-
ล้อมกรอบด้วยปุ่มจริงบางส่วน (physical buttons) เพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่
-
บ่งบอกแนวทาง “Human-Machine Interface” แบบใหม่ของ Toyota
-
-
ช่องแอร์แบบแยกชั้น
-
ช่องแอร์ด้านซ้ายขวา “ทรงเหลี่ยม” และซ่อนในแนวเส้นตกแต่งสีดำเงา
-
มีการออกแบบให้เข้ากับโครงเส้นคมของคอนโซล
-
-
ช่องเก็บของและพื้นที่ผู้โดยสาร
-
ช่องเก็บของฝั่งซ้าย (Glovebox) มี 2 ชั้น
-
พื้นผิวด้านบนใช้วัสดุ Soft Touch + Stitching เย็บด้ายโชว์
-
เพิ่มความรู้สึก “รถ SUV ระดับสูง” มากกว่า “กระบะใช้งาน”
-
-
จุดชาร์จและปุ่มควบคุมตรงกลาง
-
มีพื้นที่สำหรับปุ่มควบคุมระบบขับเคลื่อน / แอร์ / กล้อง 360°
-
ช่องวางของขนาดใหญ่ด้านล่าง เหมาะกับสายเดินทาง
-
ภาพลักษณ์และแรงบันดาลใจ
-
โครงสร้างและดีไซน์รวมดู “คล้าย Tacoma / Land Cruiser Prado ใหม่” อย่างชัดเจน
-
บ่งชี้ว่ารุ่นนี้อาจเป็น Toyota Hilux เจเนอเรชันใหม่ (หรือชื่อพัฒนา “Hilux AN2 / Travo”)
-
ใช้แนวคิด “Tough Premium Interior” ผสมผสานอารมณ์บึกบึนกับหรูหรา
จุดเด่นทางอารมณ์การออกแบบ
-
“สันเหลี่ยม” ทุกเส้นมีความตั้งใจให้ดูแข็งแรงและบึกบึน
-
การใช้สีแดงไวน์ (Burgundy Red) คือจุดขายใหม่ เพิ่มความพรีเมียม
-
การจัดตำแหน่งจอและช่องแอร์ช่วยให้คนขับรู้สึกควบคุมได้เต็มมือ
เครดิตภาพ headlightmag




ล่าสุดทดสอบวิ่งกระบะตอนเดียวสำหรับ Hilux Travo ใหม่ ก่อนเปิดตัวปลายปีนี้
ขออนุญาติเจ้าของภาพนะครับ


ภาพโดย คุณ Pom Buddy / Revo GR Sport Club








เครดิตภาพคุณ รัตน์ ระยอง
All-New Toyota Hilux 2026 — ยุคใหม่ของกระบะโลก ยกเครื่องดีไซน์ ยกระดับเทคโนโลยี พร้อมขุมพลัง BEV ครั้งแรก
กำหนดการเปิดตัว: วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
Hilux ก้าวสู่ยุคใหม่ จากความแกร่ง สู่ความอัจฉริยะ
กว่า 55 ปีที่ชื่อ “Hilux” ยืนหนึ่งในฐานะกระบะระดับตำนานของ Toyota — จากรุ่นแรกในปี 1968 ที่เน้นความทนทาน บึกบึน และใช้งานได้ทุกสภาพถนน จนถึงปี 2026 Toyota พร้อมยกระดับกระบะขวัญใจคนไทยและทั่วโลกอีกครั้ง ด้วย All-New Toyota Hilux รุ่นปี 2026 ที่เปลี่ยนใหม่เกือบทั้งคัน ทั้งด้านดีไซน์ ภายใน เทคโนโลยี ระบบขับเคลื่อน และที่สำคัญคือการมาของ “รุ่น BEV” หรือขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Hilux
รุ่นย่อยและการจัดไลน์อัปใหม่ ยกเลิกเครื่อง 2.4 ดีเซลทั้งหมด
Toyota ปรับโครงสร้างไลน์อัปของ Hilux ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยยุติการใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เดิมที่ใช้มายาวนาน และเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เทอร์โบดีเซล ทั้งหมด ซึ่งมีแรงบิดสูงกว่าเดิม พร้อมรองรับมาตรฐานไอเสียยุโรปและการใช้งานน้ำมัน B20
รุ่นเครื่องยนต์เบนซินยังไม่ถูกเปิดเผยในช่วงเปิดตัวแรก เนื่องจาก Toyota มุ่งเน้นไปที่รุ่น “ยกสูง (High-Floor)” และรุ่น BEV เป็นหลักในรอบแรก
รายละเอียดรุ่นย่อย (Model Lineup)
STANDARD CAB 4×4
-
2.8 Entry MT
-
2.8 Entry AT
สำหรับสายงานเกษตรหรือฟลีทรถหน่วยงานที่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมความทนทาน
SMART CAB 4×2 (ยกเลิกเครื่อง 2.4 เปลี่ยนเป็น 2.8)
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
จุดเด่นคือความสมดุลระหว่างราคาและอุปกรณ์ เหมาะกับทั้งลูกค้าทั่วไปและภาคธุรกิจ โดย Toyota ตัดรุ่น 2.4 Rocco AT ออกไป เพื่อให้ตำแหน่งตลาดไม่ทับกับรุ่น Rocco ตัวท็อป
SMART CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Mid AT (รุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น)
การเพิ่มรุ่น Mid AT ทำให้ตลาดกลุ่มผู้ใช้ 4×4 มีทางเลือกมากขึ้น โดยตัดรุ่น High และ Rocco เดิมออก เพื่อให้เรียบง่ายและเน้นเฉพาะรุ่นขายดี
Advertisement Advertisement
DOUBLE CAB 4×2
รวมรุ่น “High” และ “Rocco” เดิมให้เหลือเพียง “Rocco” และ “Rocco Safety”
-
2.8 Entry MT / AT
-
2.8 Mid MT / AT
-
2.8 Rocco AT (แทน 2.4 High AT เดิม)
-
2.8 Rocco Safety AT (แทน 2.4 Rocco AT เดิม)
Toyota ปรับกลยุทธ์ “รวมรุ่น” เพื่อให้ลูกค้าเลือกง่าย และผลักดัน Rocco เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของ Hilux ยุค 2026
DOUBLE CAB 4×4
-
2.8 Mid MT
-
2.8 Rocco Safety AT (รุ่นท็อปสุดของไลน์ดีเซล) ชูจุดขายด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ พร้อมระบบ Multi-Terrain Select รุ่นใหม่
Hilux BEV (Battery Electric Vehicle)
Hilux BEV หรือรุ่นไฟฟ้า 100% จะเปิดตัวเป็นไฮไลต์ของปี 2026 ใช้พื้นฐานร่วมกับแพลตฟอร์ม IMV-0 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดย Toyota คาดว่าจะมีให้เลือกทั้งแบบ Single Cab และ Double Cab พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางต่อการชาร์จราว 300–400 กิโลเมตร (WLTP)
รุ่น GR Sport Wide Tread จะยังไม่จำหน่ายในช่วงเปิดตัวแรก
ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน — ความแข็งแกร่งที่ทันสมัยกว่าเดิม
Hilux 2026 มาพร้อมเส้นสายใหม่หมดจด โดย Toyota ยึดคอนเซ็ปต์ “Tough & Tech” — ดุดัน แข็งแรง แต่แฝงความล้ำสมัย
ภายนอก
-
ไฟหน้าใหม่แบบ Full LED พร้อม Signature Light
-
กระจังหน้าแนวตั้งทรงหกเหลี่ยม พร้อมลายซี่ขนาดใหญ่
-
ฝากระโปรงหน้าและแก้มข้างออกแบบใหม่ เพิ่มความบึกบึน
-
คิ้วล้อ และบันไดข้างดีไซน์ใหม่ (เฉพาะ Smart Cab / Double Cab)
-
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ (Rocco ใช้ขนาด 18 นิ้ว)
-
ฝาท้ายกระบะใหม่ พร้อมโลโก้ “TOYOTA” สีดำแบบปั๊มนูน
-
กันชนท้ายทรงใหม่ พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ
ชุดแต่ง Rocco ใหม่
-
กันชนหน้าส่วนล่างใหม่
-
ชิ้นตกแต่งข้างกันชนใหม่
-
สปอร์ตบาร์ลายใหม่แนวล้ำยุค
-
ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายเฉพาะ
ห้องโดยสารใหม่หมด — จากกระบะสู่ระดับ SUV
ภายในของ Hilux 2026 ได้แรงบันดาลใจจาก Toyota Land Cruiser และ Tacoma รุ่นล่าสุด ผสมผสานวัสดุ Soft-touch เข้ากับการจัดวางที่ดูพรีเมียมแต่ใช้งานง่าย
จุดเด่นภายในใหม่
- แผงคอนโซลหน้าและช่องแอร์ดีไซน์ใหม่
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันทรงใหม่
- คอนโซลกลางยกสูงพร้อมคันเกียร์สั้นแนวสปอร์ต
- เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว (ตั้งแต่ Mid ขึ้นไป)
- หน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว / 12.3 นิ้ว (Rocco ขึ้นไป)
- Wireless Charger และระบบ Smart Entry + Push Start
- เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า (เฉพาะ Rocco)
- ระบบเสียง 8 ลำโพง พร้อมลำโพงบนเพดาน
ความปลอดภัยล้ำยุค — Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด
Hilux 2026 นำเสนอชุดระบบความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจาก Toyota ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มี “ขอบเขตการตรวจจับกว้างขึ้น” และ “ตอบสนองเร็วขึ้น”
รายละเอียดการอัปเกรด Safety Sense
Pre-Collision System (PCS)
- ตรวจจับรถ คน มอเตอร์ไซค์ และจักรยาน
- ตรวจจับข้ามทางแยก
- ควบคุมพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวาง
- ลดแรงเครื่องยนต์ในความเร็วต่ำ
Dynamic Radar Cruise Control (All-Speed)
- ตรวจจับรถด้านหน้า 2 คัน
- ลดความเร็วเมื่อเข้าโค้ง
- ตอบสนองเมื่อมีรถแทรกในเลน
- ปรับการทำงานเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
- ตั้งค่าการทำงานง่ายกว่าเดิม
Lane Departure Alert & Lane Tracing Assist
- เสริมแรงพวงมาลัยเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน
- ตรวจจับวัตถุข้างทางและเลนข้างเคียง
- ควบคุมให้อยู่กลางเลนแม้ขณะเข้าโค้ง
- มีระบบเบี่ยงเล็กน้อยอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวางใกล้เคียง เพิ่มระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) และดิสก์เบรกหลังตั้งแต่รุ่น Mid
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีออฟโรด — Multi-Terrain Select
Hilux 2026 ได้ระบบ Multi-Terrain Select ใหม่ ซึ่งยกระดับสมรรถนะออฟโรดให้ฉลาดกว่าเดิม โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ
-
AUTO – ให้ระบบเลือกตามสภาพพื้นผิว
-
DIRT – พื้นดินร่วนหรือถนนลูกรัง
-
SAND – ทรายนุ่มหรือชายหาด
-
MUD – โคลนหนา
-
DEEP SNOW – หิมะลึก
-
ROCK – พื้นหินหรือไต่ก้อนหิน
ระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้โหมด 4H หรือ 4L เพื่อให้การยึดเกาะและแรงบิดเหมาะสมในทุกสภาพพื้นผิว

จากข้อมูลในตอนนี้ HILUX TRAVO ใหม่ อาจไม่มี 2.4 แล้ว อนาคตของ 2.4 จะเป็นอย่างไร ?
- Hilux Revo Smart Cab / Double Cab รุ่น E / Prerunner
- Revo Rocco รุ่นล่าง
- Fortuner รุ่น 2.4 V
เหตุผลหลักที่ Toyota อาจเลิกเครื่อง 2.4 ลิตร
การปรับสู่ยุค Hybrid และ EV Pickup
ต้นทุนและกฎมลพิษใหม่ (Euro 6 / มาตรฐานไทย)
การเปลี่ยนโฟกัสสู่กลุ่มพรีเมียม
แล้วเครื่อง 2.4 จะหายไปเลยไหม?
ยังคงอยู่ใน Hilux Champ
อาจถูกใช้ในรถเพื่อส่งออก
ดีเซล 48V Technology 1GD-FTV 2.8 ลิตร สำหรับกระบะ TRAVO และ ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่
1GD-FTV (GD Super Power) ขุนพลดีเซลเทพ 2.8 จาก REVO สู่ TRAVO ใหม่
ราคา 2.14 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA Tacoma Trailhunter i-FORCE MAX HYBRID 326 แรงม้า 9.78 กม./ลิตร EPA
ภาพคันจริง TOYOTA TACOMA LIMITED i-Force MAX 2.4T ไฮบริด 326 แรงม้า ราคา 2.01 ล้านบาทในสหรัฐฯ
https://www.car250.com/toyota-tacoma-trd-pro-i-force-max-10.html
TOYOTA TACOMA X-Runner i-FORCE MAX 3.4 Twin Turbo V6 ให้กำลัง 421 แรงม้า ต้นแบบในสหรัฐฯ
